- ที่มาของชื่อ Debian นี่เป็นการนำสองชื่อมารวมกันนั่นก็คือ Debra และ Ian ซึ่ง Ian ก็คือ Ian Murdock ผู้ก่อตั้ง Debian นั่นเอง ส่วน Debra คือชื่อภรรยาของเขา (แหม! ขนาดตั้งชื่อ ยังเอาชื่อเมียขึ้นก่อนเลย)
- ส่วนที่มาของชื่อ Ubuntu นั้น เป็นภาษาในแอฟริกาใต้ ซึ่งมีความหมายในภาษาอังกฤษคือ "Humanity Towards Others" หรือแปลเป็นไทยคือ "เมตตาต่อกัน" (อารมณ์ประมาณทำเพื่อผู้อื่นสินะ)
Debian ดูแลโดยชุมชน และ Ubuntu ดูแลโดยบริษัท Canonical Ltd.
จากเว็บไซต์ทั้งหมดใช้ Debian 29.5% และ Ubuntu 23.6%
Debian ไม่ค่อยจะเหมาะกับมือใหม่สักเท่าไหร่ ต่างจาก Ubuntu หากคุณไม่มีประสบการณ์การใช้งานเกี่ยวกับลินุกซ์มาก่อนก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่ยากนัก
หากใครที่ต้องการลินุกซ์ไปใช้งานด้าน Cloud แล้วละก็ Ubuntu รองรับด้านนี้เลย แต่ถ้าถามว่า Debian ทำได้ไหม ก็ได้เหมือนกัน แต่อาจจะยากกว่า Ubuntu เท่านั้นเอง
Debian รองรับอุปกรณ์หลากหลายสถาปัตยกรรมกว่า ต่างจาก Ubuntu ที่รองรับสถาปัตยกรรม i386, x86_64, ซะส่วนใหญ่ แต่ก็เริ่มมีรองรับพวก IoT และอุปกรณ์อื่นๆ แล้ว
ผมคิดว่าลินุกซ์ทั้งสองตัวสามารถใช้งานโปรแกรมได้เหมือนๆ กัน เพราะเป็นลินุกซ์ตระกูลเดียวกัน
Debian มีความเสถียรมากกว่า เพราะได้รับการทดสอบจากชุมชนโดยตรง แล้ว Ubuntu ค่อยนำโปรแกรมไปพัฒนาใช้บน Ubuntu อีกที
Debian น่าเชื่อถือกว่า ถึง Ubuntu จะมี Feature แจ่มๆ ก็จริง แต่บางทีผมก็คิดว่ามันชวนให้อืดนะ
Debian มีชุมชนที่ใหญ่กว่า Ubuntu มาก แต่อาจจะเหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์การใช้งานลินุกซ์สักหน่อย ต่าง จาก Ubuntu ที่เหมาะสำหรับมือใหม่มากกว่า
"อยู่ที่คุณแล้วหละ ว่าจะเลือกฝั่งไหน"
สุดท้ายนี้หวังว่าจะพอเป็นแนวทางในการเลือกใช้ลินุกซ์สักตัวนะครับ ส่วนตัวผมบอกเลยว่าชื่นชอบ Ubuntu มาก (แต่ก่อนอะนะ) แต่ตอนนี้ไม่ละ นับตั้งแต่ Ubuntu ทิ้ง Unity ไป ผมก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ Ubuntu ละ ไปใช้ Debian น่าจะแจ่มกว่า ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวหากใครเห็นแย้งตรงไหน หรือผมบอกข้อมูลตรงไหนผิดไป ก็สามารถบอกกันมาได้เลย สำหรับบทความนี้ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
เดเบียน
ตอบลบ